อาหาร บำรุง ลำไส้

. เว็บไซต์ อ. ดร. เมียคิน ตีพิมพ์เรื่อง 'New colon cancer risk factor: sugary foods' =, ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ. สถิติสหรัฐฯ พบว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่พบ = 9. 7% ของมะเร็งทั้งหมด, และเป็นสาเหตุการตายจากมะเร็ง 8%. สรุป คือ มะเร็งนี้พบประมาณเกือบๆ 10% ของมะเร็งทั้งหมดรวมกัน.. ภาพที่ 1: ทางเดินอาหารจากปาก-หลอดอาหาร จะเป็นกระเพาะอาหาร (1), ลำไส้เล็ก (2), ลำไส้ใหญ่ (3), ไส้ตรง (6), ทวารหนัก (7). หมายเลข 5 เป็นไส้ติ่ง.. มะเร็ง ลำไส้ใหญ่มีอาการไม่ชัดเจน อาจมีอาการดังต่อไปนี้. (1). แบบแผนในการถ่ายอุจจาระ (อึ) เปลี่ยนไป. ที่พบบ่อย คือ ท้องผูกสลับท้องเสีย เส้นผ่าศูนย์กลางอุจจาระเล็กลง (จากใหญ่เป็นเล็ก). (2). เลือดจาง ซีด เพลีย เนื่องจากการเสียเลือดเรื้อรัง. (3). ทางเดินอาหารอุดตัน ไม่ถ่าย ไม่ผายลม (ตด). (4). อาการที่ไม่จำเพาะ เช่น ผอมลง น้ำหนักลด เบื่ออาหาร ไข้ ภูมิต้านทานต่ำลง (เช่น เป็นงูสวัด 2 ครั้ง นับจากตลอดชีวิต ฯลฯ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะพบไม่เกิน 1 ครั้ง). (5). คลำได้ก้อนในท้อง หรือก้อนจากการกระจายของมะเร็ง เช่น ต่อมน้ำเหลืองโต ตับโต (กระจายไปตับ) ฯลฯ.. ภาพที่ 2: ทางเดินอาาหรจากบนลงล่าง คือ ปาก, หลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร (stomach) _ ลำไส้เล็ก (small intestine), ลำไส้ใหญ่ (large intestine), ทวารหนัก (anus).

  1. ลำไส้ใหญ่อักเสบ - ระบบทางเดินอาหาร | โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
  2. อาหารที่เป็นมิตรต่อลำไส้ : รู้สู้โรค (20 มิ.ย. 62) - YouTube

ลำไส้ใหญ่อักเสบ - ระบบทางเดินอาหาร | โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

  • 10 อาหารโพรไบโอติกส์สูง ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ช่วยขับถ่าย แก้ท้องผูก
  • จำหน่าย 3m petrifilm respirator
  • Dahon boardwalk 2015 ราคา white
  • แหวน 50 สต
  • แปลน บ้าน เอื้อ อาทร ห้องชุด
อาหารบํารุงลําไส้
รวม 5 อาหารโพรไบโอติกส์ แก้ท้องผูก ช่วยขับถ่าย แถมช่วยลดพุงได้ด้วย
02-634-0225 (เวลาทำการ จ. -ศ. 9. 00-17. 00 น. ) (2) สั่งทางไลน์ (Line) Line id: @interpharma แอดไลน์ด่วน คลิก ==>%40interpharma วิธีรับประทาน: ทานวันละ 2 ซอง (เช้า-เย็น) โดยฉีกซองเทใส่ปาก หรือชงกับน้ำเย็น สามารถทานควบคู่กับยารักษาโรคลำไส้แปรปรวนได้ โดยทานให้ห่างกัน 30 นาที

เผยแพร่: 28 ต. ค. 2557 11:14 โดย: MGR Online 6 สมุนไพร "ลำไส้" ต้องการ บางครั้งคนเรามักดูแลแต่ภายนอกร่างกาย และหลงลืมการดูแลสุขภาพภายในอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับระบบย่อยอาหารที่ต้องรับอาหารเข้าไปอยู่ทุกวี่วัน จนบางครั้งอาจเกิดความผิดปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง จุกเสียด และอื่นๆ ดังนั้นหันมารับประทานอาหารที่ประกอบด้วย 6 สมุนไพร ดังต่อไปนี้ เพื่อช่วยป้องกันอาการไม่สบายในลำไส้ของเรากันจะดีกว่า 1. ใบแมงลัก น้ำมันหอมระเหยจากใบแมงลักเป็นยาช่วยย่อยชั้นเซียน ลำไส้ใครไม่ค่อยทำงานจนท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ ลองชิมใบแมงลักสักสี่ห้าใบแล้วจะติดใจ นอกจากนั้นยังช่วยขับลมในลำไส้ อาหารไม่ย่อย อาการอึดอัด แน่นไม่สบายท้อง ให้นำต้นและใบแมงลักต้มน้ำดื่ม 2. พริกสด ความเผ็ดซู่ซ่าของพริกคืออยากกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งน้ำลายออกมา จากนั้นเอนไซม์ของน้ำลายจะช่วยย่อยแป้งให้อ่อนตัวลง กระเพราะกับลำไส้จะได้ไม่ต้องทำงานโหลดจนเกินไป 3. หอมแดง แค่กินหอมแดงอย่างเดียว ลำไส้คุณก็ยิ้มแล้ว เพราะเท่ากับซื้อหนึ่งได้ถึง สี่ ได้แก่สารฟลาโวนอยส์ ไกลโคไซต์ เพคติน และกลูโคคินิน 4 สารบำรุงลำไส้และช่วยย่อยและทำให้เจริญอาหาร คุ้มกว่านี้มีอีกไหม 4.

ผักประเภทสมุนไพร อย่ามองข้ามไปเชียวค่ะ ผักต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณทางยาของบ้านเราดีๆทั้งนั้นนะคะ เช่น ใบกะเพรา ใบแมงลัก พริกสด หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ เป็นต้นเหล่านี้ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยดูดซับไขมันในลำไส้ ช่วยบำรุงลำไส้ ช่วยระบบย่อยอาหาร และยังสามารถช่วยให้เจริญอาหาร ขับปัสสาวะของเสียออกจากร่างกายได้ดี ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดได้ด้วยนะคะ เห็นหรือไม่คะว่า อาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้ของเรานั้น สามารถหาทานได้ง่ายๆ นอกจากการรับประทานอาหารที่ดีและพอเหมาะแล้ว ควรออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วย จะดีมากเลยค่ะ พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ (เครดิต:, ), #KINN_Holistic_Healthcare

อาหารที่เป็นมิตรต่อลำไส้ : รู้สู้โรค (20 มิ.ย. 62) - YouTube

บอดี้ มิส วัต สัน

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple-cider vinegar) สามารถนำมาประกอบอาหารก็ได้ หรือจะนำมาทำเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพก็ได้ ซึ่งสำหรับคนที่กินคิโตก็นิยมนำน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลมาผสมกับน้ำเปล่าหรือโซดา ดื่มระหว่างวันเพื่อช่วยย่อยอาหารและช่วยกระตุ้นการขับถ่าย เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลมีโพรไบโอติกส์ที่สามารถช่วยลดอาการท้องผูก ไม่ค่อยขับถ่าย ช่วยปรับระบบการขับถ่ายให้กลับมาสมดุลค่ะ 6. คอทเทจชีส คอทเทจชีสหรือชีสสด จัดเป็นชีสที่มีโปรตีนและแคลเซียมในปริมาณสูง รวมถึงยังมีโพรไบโอติกส์ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และยังเป็นอาหารที่เหมาะกับการลดน้ำหนักด้วยค่ะ โดยวิธีการกินคอทเทจชีสก็สามารนำมากินคู่กับขนมปังโฮลวีท หรือจะใส่ผลไม้และธัญพืชต่างๆ ลงไปผสมก็ได้ค่ะ 7. พาร์มีซานชีส พาร์มีซานชีสถือเป็นเนยแข็งชนิดหนึ่ง ลักษณะของพาร์มีซานชีสจะมีความแข็ง มีกลิ่นแรงและมีรสชาติเค็มมัน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด ทั้งการขูดเป็นเส้นๆ เพื่อใช้โรยหน้าสลัด คาโบนาร่า หรือแม้แต่การนำพาร์มีซานชีสมาทอดบนกระทะเฉยๆ ก็จะได้ชีสกรอบเอาไว้เป็นอาหารกินเล่นก็ได้ค่ะ พาร์มีซานชีสจัดเป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ โดยสารอาหารภายในพาร์มีซานชีสจะมีลักษณะคล้ายกับโยเกิร์ตเลยค่ะ 8.

ใบกะเพรา ถึงชื่อเสียงของกะเพราจะมืดมนไปมาก ตั้งแต่ผักกะเพราถูกตั้งชื่อว่าผักสิ้นคิด แต่สรรพคุณของมันยังแจ่มเหมือนเดิม โดยเฉพาะสรรพคุณในการขับน้ำดีในกระเพราะอาหารมาช่วยย่อยอาหารที่เรากินเข้าไป นอกจากนั้นยังช่วยย่อยไขมัน ลดอาการจุกเสียด 5. ตะไคร้ ให้เคี้ยวกิน แต่กินยากเกินไปหน่อย แต่ถ้าทำเป็นชาตะไคร้ หรือซอยบางๆกินกับยำ คงไม่ลำบากมากเกินไปสำหรับคนรักสุขภาพ สรรพคุณของตะไคร้เริ่ดไม่แพ้ใบกระเพรา คือช่วยขับน้ำดีออกมาย่อยอาหารเหมือนกัน สวมถึงแก้ปวดกระเพาะอาการ และช่วยขับปัสสาวะ 6. กระเทียม มีสูตรเด็ดเคล็ดลับสำหรับคนที่มีอาการอาหารไม่ย่อยมาฝาก ให้เอากระเทียมมา 5 กลีบแล้วสับละเอียด กินทันทีหลังอาหาร กระเทียมจะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารจอมขี้เกียจของคุณยอมย่อยอาหารมื้อนั้นแต่โดยดี ถ้ากินทุกวันไม่นานอาการอาหารไม่ย่อยก็จะหายไปเอง นอกจากนั้นยังช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อด้วย

การย่อยเชิงกล (Mechanical Process) เป็นการเคลื่อนไหวอวัยวะของระบบทางเดินอาหาร เช่น การรีดอาหารลงไปในหลอดอาหาร การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารและลำไส้ 2. การย่อยเชิงเคมี (Chemical Process) เป็นการเปลี่ยนแปลงขนาดโมเลกุลของสารอาหารให้มีขนาดเล็กลง โดยอาศัยเอนไซม์หรือน้ำย่อย iStock โยเกิร์ต ช่วยลดความเสี่ยง มะเร็งลำไส้ ใหญ่ หนึ่งในตัวช่วยที่สำคัญของระบบการย่อยก็คือ " จุลินทรีย์" จุลินทรีย์เป็นเพื่อนสนิทติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด เป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ (GUT Microbiota) เจริญเติบโตไปพร้อมกับตัวเรา มีหน้าที่สำคัญคือ เป็นหน่วยรบต่อสู้กับแบคทีเรียตัวร้าย ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เป็นปกติ สร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหาร และช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ อาหารที่ทำให้จุลินทรีย์เติบโตได้ดี จะมีอยู่มากในอาหาร 2 ประเภท 1. อาหารจำพวกไฟเบอร์ หรือน้ำตาลเชิงซ้อน ประกอบด้วย oligofructose, fructo-oligosaccharides และ inulin นี่แหละอาหารสุดโปรดของแบคทีเรียในลำไส้ หรือที่เราเรียกกันว่า พรีไบโอติก ซึ่งจะพบมากในอาหารจำพวก กล้วย เห็ด หน่อไม้ฝรั่ง หัวหอม ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ 2.

โยเกิร์ต อาหารที่มีโพรไบโอติกส์สูงอย่างแรกๆ ที่เราจะนึกถึงนั่นก็คือโยเกิร์ตนั่นเองค่ะ โดยโยเกิร์ตนั้นเกิดจากการนำนมไปหมัก ทำให้เกิดจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ขึ้นมาและมีในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ดี เพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายของเราทำงานได้ดีค่ะ 2. ผักดอง ผักดองไม่ว่าจะเป็นแตงกวาดองแบบอาหารฝรั่ง ผักดองแบบอาหารจีน หรือจะเป็นผักดองของไทย ก็จัดเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ค่ะ และนอกจากนี้ยังมีวิตามินที่จำเป็นกับร่างกาย ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ช่วยลดการเกิดโรคเกี่ยวกับลำไส้ ลดอาการท้องผูกและช่วยปรับระบบการย่อยอาหารให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ 3. กิมจิ กิมจิก็ถือเป็นผักดองชนิดหนึ่งค่ะ ชาวเกาหลีนิยมกินคู่กับเนื้อย่างหมูย่าง หรือแม้แต่จะกินคู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้ โดยกิมจิจัดเป็นอาหารประจำโต๊ะที่แทบขาดไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งการกินกิมจินี้ก็จะช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูก ท้องอืดท้องเฟ้อ รวมถึงยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ 4. มิโซะ มิโซะคือเครื่องปรุงในอาหารญี่ปุ่น โดยมาจากการหมักข้าวหรือถั่วเหลืองกับเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งในกระบวนการหมักนี้เองจึงทำให้เกิดจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ค่ะ ซึ่งช่วยปรับสมดุลในลำไส้ได้ นอกจากนี้ในมิโซะยังมีโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ ซุปมิโซะหรือซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นถือเป็นอาหารที่ช่วยบำรุงลำไส้ ปรับสมดุลในร่างกายและยังเป็นอาหารที่ช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยค่ะ 5.