" ซีแพนเนล" เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/65 เติบโตดี จ่อเซ็นสัญญาโครงการแนวราบแนวสูง มูลค่ารวม 52. 77 ล้านบาท ดัน Backlog 1, 256. 62 ล้านบาท มองภาพรวมอสังหาฯ ฟื้น ไม่หวั่นต้นทุน–เงินเฟ้อพุ่ง ไตรมาส 2/65 เตรียมลงเครื่องจักรใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพโรงงานเดิม เล็งขยายกำลังการผลิต 5-10% นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) (CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/65 แนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับลูกค้าโครงการแนวราบแนวสูงเพิ่ม 3 ราย มูลค่ากว่า 52. 77 ล้านบาท ซึ่งหากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วจะส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 1, 256. 62 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่มีความสนใจใช้ Precast Concrete ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอีกกว่า 7 ราย อีกทั้ง บริษัทมีงานที่จะส่งมอบให้ลูกค้า 15 ราย อาทิ โครงการ Noble Gable, Noble Curve, Grand Britania Bangna KM.
ค.
ศ.
กำลังการผลิต เครื่องจักร 1 ไลน์การผลิต มีกำลังการผลิต 640 ตรม. ต่อวัน (ชั่วโมงทำงานที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน) ดังนั้นจะสามารถผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปได้ประมาณ 200, 000 ตร. ม. ต่อปี กำลังการผลิตดังกล่าวสามารถสร้างทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 110 ตร. ได้ประมาณ 700 ยูนิต หรือคอนโดมิเนียมขนาดห้อง 28 ตรม. ได้ประมาณ 1, 800 ยูนิต สถานที่ตั้ง โรงงาน ไบร์ท พรีแคสเตอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 10/10 หมู่ 10 ต. บางบัวทอง อ. บางบัวทอง จ. นนทบุรี ประกอบด้วยอาคารโรงงาน ขนาด 5, 544 ตรม. และ Stock yard ขนาด 4, 500 ตรม. บนพื้นที่ 44-1-23 ไร่ เครื่องจักรที่ใช้จะเป็นระบบ Semi Automated Carrousel System ซึ่งเป็นระบบการผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปอัตโนมัติ โดยสั่งซื้อเครื่องจักรหลักในขบวนการผลิต จากประเทศเยอรมันและมีอีกส่วนหนึ่งที่เป็นเครื่องจักรภายในประเทศ
ช่วยลดเวลาการก่อสร้าง สามารถหล่อชิ้นส่วนพรีคาสท์ไปพร้อมกับการก่อสร้างฐานรากแล้วนำไปติดตั้งได้ทันที ทั้งยังมั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนคอนกรีตที่ส่งถึงหน้างาน มีคุณภาพที่ดี และมีมิติที่ถูกต้อง จากการหล่อชิ้นส่วนสำเร็จรูปภายในโรงงาน และควบคุมด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย 2. สามารถฝังงานระบบเข้าไปในชิ้นส่วนได้เลย ไม่ต้องกรีดผนังซ้ำหลังการก่ออิฐในระบบ เสาคาน หล่อในที่ 3. ช่วยลดจำนวนแรงงาน ซึ่งเป็นปัญหาหลักในปัจจุบันจากการขาดแคลนแรงงานในตลาด 4. ช่วยลดกิจกรรมการก่อสร้างที่ต้องทำกลางแจ้ง เช่น การผูกเหล็ก หรือการตั้งแบบอีกด้วย และ 5.