เดี๋ยวนี้เวลานั่งทำงานนาน ๆ มีใครรู้สึกปวดหลังบ้างคะ เราเชื่อว่ามันต้องมีแหละเพราะการนั่งนาน ๆ อาจเป็นสาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรมได้ วันนี้ Wongnai Beauty คิดว่าสาว ๆ ควรได้รับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อช่วงหลังกันบ้าง เราเลยรวม 6 ท่าโยคะแก้ปวดหลังทำง่าย ๆ มาฝากสาว ๆ ค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยย! 6 ท่าโยคะ "แก้ปวดหลัง" ง่าย ๆ ทำเองได้ที่บ้าน ใช้เวลาไม่กี่นาที!
เอส รพ. เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท
การนั่งทำงานเฉยๆ ดูเหมือนน่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ เนื่องจากไม่ได้ใช้แรงอะไรมาก น่าจะเป็นอาชีพที่สบายด้วยซ้ำ แต่รู้มั้ยว่าการ "นั่งเฉยๆ" ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ อันตรายไม่แพ้ผู้ที่ทำงานหนักเลยทีเดียว ลองมาดูกันว่าท่านั่งอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงนะคะ 1. นั่งไขว่ห้าง ท่านั่งไขว่ห้างอาจทำให้เราดูบุคลิกดี แต่เมื่อเราลงน้ำหนักไปที่ขาและเท้าข้างใดข้างหนึ่ง จะทำให้เลือดบริเวณนั้นไหลเวียนได้ไม่ดี นอกจากจะเมื่อยแล้ว ยังทำให้กล้ามเนื้อสะโพก เอว หลัง ไปถึงหลังศีรษะผิดรูป กล้ามเนื้อข้างกระดูกไม่สมดุล กระดูกชายโครงเกร็งรั้ง และอาจทำให้กระดูกสันหลังคดงอ เส้นประสาททำงานผิดปกติ จนไปถึงหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ที่โรคยอดฮิตของชาวออฟฟิศได้ 2. นั่งหลังค่อม พุงแอ่น นอกจากบุคลิกจะไม่ดีแล้ว การนั่งหลังค่อมยังทำให้กระดูกสันหลังงอ ยิ่งถ้าอยู่ท่าเดิมซ้ำๆนานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อเกร็งค้าง เกิดอาการคั่งของกรดแล็คติค จนมีอาการเมื่อยล้าตลอดเวลา และกระดูกอาจคดงอผิดรูปถาวรได้ 3. นั่งก้นไม่เต็มเบาะ ลองสังเกตดูดีๆ หลานคนนั่งแค่ครึ่งเบาะ หลังไม่พิงเบาะ จึงเป็นเหตุให้หลังค่อมโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักมากขึ้น 4.
คนที่มีน้ำหนักตัวมาก จะทำให้ข้อต่อกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสันหลังรับภาระหนักตลอดเวลา จึงมีโอกาสเกิดการเสื่อมมากและเร็วขึ้น 12. ใช้ที่นอนแข็งหรือนุ่มเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อ กระดูกโดยเฉพาะกระดูกสันหลังอยู่ในลักษณะคดงอนานๆ ทำให้ปวดเมื่อยตัวและปวดหลัง ขอเตือนเลยว่า อาการปวดหลัง ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะให้เกิดขึ้น เพราะเมื่อเป็นแล้วเจ็บปวดทรมานและหายยาก ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันมากๆ พยายามหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง สาเหตุของอาการปวดหลัง ไว้ดีกว่ามาทนทุกข์ทรมานทีหลัง บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องน่ารู้... คู่สุขภาพดี
1. จัดโต๊ะทำงานให้เหมาะสม ปรับจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาพอดี ไม่ต้องก้มหรือเงยเวลาทำงาน และปรับระดับเก้าอี้ให้สามารถวางเท้าบนพื้นได้พอดี หากโต๊ะสูงเกินไปจนเวลานั่งแล้ววางเท้าไม่ได้ ก็ควรหาเก้าอี้เตี้ย ๆ หรือกล่องเล็ก ๆ มาใช้สำหรับวางเท้า 2. เลือกเก้าอี้หมุนได้ เวลาหันไปรับโทรศัพท์หรือหันไปคุยกับเพื่อนร่วมงาน จะได้หมุนไปทั้งตัวง่าย ๆ โดยไม่ต้องเอี้ยวตัวไปมา หมายเหตุ: จิบน้ำบ่อย ๆ อาการขาดน้ำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปวดหลัง แต่การเดินไปเติมน้ำในแก้วบ่อย ๆ จะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้คุณได้เปลี่ยนอิริยาบถบ้าง หรือหาหมอนมาหนุนหลัง เวลานั่งเก้าอี้ไม่จำเป็นต้องเกร็งหลังให้ตรงเป๊ะ หาหมอนมารองช่วงเอว แล้วนั่งพิงสบาย ๆ หลังอาจจะแอ่นนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร 3. ตรวจสายตาสม่ำเสมอ สายตาที่เปลี่ยนไปอาจทำให้คุณต้องก้มตัวไปจ้องหน้าจอโดยไม่รู้ตัว อาจทำให้ปวดต้นคอและหลังได้ 4. อย่าหิ้วของหนักเกิน เวลาช้อปปิ้ง พยายามกระจายน้ำหนักข้าวของที่ถือในมือทั้งสองข้างให้ใกล้เคียงกัน และอย่าช้อปเพลินจนต้องก้มตัวเวลาหิ้ว และเมื่อยกของหลังต้องตรง เวลายกของขึ้นจากพื้นโดยเฉพาะของหนัก อย่าก้มตัวลงไป เพราะอาจจะทำให้ต้องใช้แรงที่หลังมากเกินจนกล้ามเนื้ออักเสบได้ และปวดหลังได้ แต่ให้ใช้วิธีย่อตัวและเข่าลงไปยกแล้วยืนขึ้นมาตรง ๆ 5.
คนไข้จะตอบทันทีว่า "รู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนห่อหลัง ทำหลังค่อมมากๆอยู่อ่ะ" พอคนไข้ตอบมาแบบนี้ ผมก็ให้คนไข้ลืมตาขึ้น แล้วมองกระจกทันที คนไข้ก็จะแปลกใจตัวเองว่า "ภาพในกระจกตัวเรายืนหลังตรงดีมากๆ หลังไม่แอ่น พุงก็ไม่ยื่นแล้ว (เหมือนภาพด้านล่างทางขวา) แต่ความรู้สึกตอนทำม้วนก้นเหมือนตัวเองกำลังยืนหลังค่อมมากๆอยู่เลยนะ ทำไมภาพที่เห็นกับความรู้สึกมันไม่ตรงกันเลย? "
นั่งขัดสมาธิ หลายคนชอบเอาขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ ซึ่งการนั่งท่านี้นานๆ อาจทำให้เกิดเหน็บชา เนื่องจากโลหิตไหลเวียนไม่สะดวก ยิ่งถ้าใครที่มีความเสี่ยง เช่น น้ำหนักตัวเยอะ อายุมากขึ้น หรือมีปัญหาเรื่องกระดูก การนั่งขัดสมาธินานๆ ยังอาจเป็นสาเหตุของอาการข้อเข่าเสื่อมได้ 5. นั่งทับขาข้างใดข้างหนึ่ง ประเภทที่ยกขาขึ้นมา แล้วเอาขาอีกข้างทับขาหรือเท้าอีกข้างนึงไว้ นอกจากเลือดไหลเวียนไม่สะดวกแล้ว ยังเสี่ยงต่อกระดูกสะโพกและกระดูกสันหลังคดงอได้เหมือนกับท่านั่งไขว่ห้าง เพราะความไม่สมดุลของขาทั้งสองข้างนั่นเอง 6. นั่งยกไหล่ หลายคนไม่ทันสังเกตตัวเองว่าเป็นคนที่นั่งยกไหล่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ สาเหตุที่ยกไหล่โดยไม่รู้ตัว เพราะตำแหน่งของเบาะเก้าอี้ และโต๊ะไม่สัมพันธ์กัน อาจจะเบาะเก้าอี้ต่ำเกินไป หรือโต๊ะอยู่สูงเกินไป จึงทำให้เวลาพิมพ์งาน ต้องยกไหล่ขึ้นมาเพื่อให้ถนัดมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุของอาการปวดไหล่ และปวดหลังเรื้อรังได้ 7.
8 องศา อาการเป็นมากกว่า 1 เดือนยังไม่หายปวด